การปลูกผักชีฝรั่ง Garden parsley
การปลูกผักชีฝรั่งหรือ “หอมจีน” “ผักชีใบเลื่อย” ที่เกษตรกรเรียกนั้นนิยมปลูกกันมาก คือ นครสวรรค์ นครปฐม นนทบุรี เพชรบูรณ์ ฉะเชิงเทราซึ่งปัจจุบันได้รับความนิยมในการปลูกมากเพราะค่าตอบแทนค่อนข้างสูงแต่ในขณะเดียวกันก็ใช้ทุนสูงในการทำเช่นเดียวกัน เรามาดูถึงการลงทุนกันก่อน
ต้นทุนในการปลูกครั้งแรก
1. ค่าเมล็ดพันธุ์ พื้นที่ 1 ไร่ใช้เมล็ดพันธุ์ประมาณ 3-4 กก. ราคาประมาณ กิโลกรัมละ 3500-4000 บาท
2. ค่าสแลน ค่าเสาปูน ค่าสลิง ประมาณ 30,000-35,000 บาท/ไร่
3. ค่าใช้จ่ายในการดูแล ค่าปุ๋ย ค่ายา ค่าแรงงาน ประมาณ 15,000 บาท/ไร่
ค่าใช้จ่ายในการลงทุนครั้งแรกประมาณ 50,000-60,000 บาท/ไร่
(ถ้าใช้เสาเป็นไม้ไผ่ต้นทุนจะลดลงเหลือประมาณ 35,000-45,000 บาท)
การปลูกผักชีฝรั่งนั้นจะต้องทำโรงเรือนมุงสแลนรอบด้าน ให้แสงสว่างส่องเข้าไปภายในโรงเรือนได้ประมาณ 60% ถ้าแสงผ่านเข้าไปน้อยกว่านั้นประมาณ 70% ขึ้นไป ก็จะทำให้เกิดความชื้นในโรงเรือนมากเป็นเหตุให้เกิดเชื้อรา ส่งผลให้ผักชีฝรั่งเป็นโรครากโคนเน่าง่าย แต่หากแสงผ่านเข้าโรงเรือนมากราว 50% ขึ้นไป ก็จะทำให้ผักชีฝรั่งไม่เติบโต ฉะนั้นเรื่องแสงสว่างในโรงเรือนจึงมีผลต่อการปลูกผักชีฝรั่งมาก โรงเรือนควรสูงประมาณ 1.70-2.00 เมตร การปลูกผักชีฝรั่งต้องปลูกระบบร่องน้ำจึงจะได้ผลดี หน้าร่องกว้างประมาณ 6 เมตร หรือ 3 วา ความยาวแล้วแต่พื้นที่ ร่องน้ำกว้างประมาณ 1 เมตร ลึก 1 เมตร ระดับน้ำจะต้องสามารถสูบน้ำเข้า-ออกให้ลดระดับน้ำสูงต่ำในร่องน้ำได้
![การปลูกผักชีฝรั่ง,หอมจีน,ผักชีใบเลื่อย](http://www.jawkaikaset.com/images/column_1285936813/DSC02655%281%29.jpg)
ผักชีฝรั่งจะเจริญเติบโตได้ดีกับดินเหนียว การเตรียมดินหากเป็นแปลงปลูกใหม่ๆ ดินยังมีสภาพดีตากดินให้แห้งเสียก่อน จากนั้นก็ตีดินด้วยรถตีดินให้ร่วนซุย เมื่อพร้อมปลูกก็หว่านเมล็ดบางๆ ลงหน้าร่อง อัตราส่วนเมล็ดพันธุ์พื้นที่ 1 ไร่ ต่อเมล็ดพันธุ์ 3-4 กิโลกรัม หลังจากหว่านเมล็ด ประมาณ 10-15 วัน เมล็ดจะงอกเป็นต้นกล้าขึ้นมา ระดับน้ำในร่องควรให้อยู่ระดับปริ่มหน้าร่อง
![การปลูกผักชีฝรั่ง,หอมจีน,ผักชีใบเลื่อย](http://www.jawkaikaset.com/images/column_1285936813/DSC02653.jpg)
พอต้นกล้างอกให้โชยน้ำพอประมาณทิ้ง ระยะให้น้ำ ห่าง 3-7 วัน ให้ครั้งหนึ่ง จนกระทั่งต้นผักชีฝรั่งอายุ 1 เดือน คราวนี้หยุดให้น้ำแล้วก็ลดระดับน้ำในร่องลงครึ่งหนึ่ง ปล่องทิ้งไว้ให้ดินแห้งสักระยะหนึ่ง สังเกตดินแห้งแตกระแหงพอสมควร ต้นผักชีฝรั่งค่อนข้างเหี่ยวเฉาแล้วให้ใส่ปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกหว่านให้ทั่วแปลง จากนั้นก็รดน้ำให้ชุ่มเพื่อให้รากดูดซึมน้ำและปุ๋ยขึ้นไปเลี้ยงลำต้นได้มากๆ เพิ่มระดับน้ำในร่องให้ปริ่มหน้าร่อง
หลังจากรดน้ำวันแรก วันที่สองให้พักการรดน้ำจะไปรดน้ำอีกครั้งในวันที่ 3 หลังจากนั้นก็ให้น้ำเช้า-เย็นตามปกติ การใส่ปุ๋ยผักชีฝรั่งให้ปุ๋ยอีก 2 ครั้ง คือในช่วงเดือนที่ 2 และเดือนที่ 3 พอถึงเดือนที่ 4 ก็สามารถถอนต้นที่ใหญ่ใบอวบสวยตามตลาดต้องการขายได้
![การปลูกผักชีฝรั่ง,หอมจีน,ผักชีใบเลื่อย](http://www.jawkaikaset.com/images/column_1285936813/DSC03038.jpg)
ต้นผักชีฝรั่งจะเจริญเติบโตไม่เสมอกัน เกษตรกรจะถอนต้นที่ใบใหญ่ออกเท่านั้น ส่วนที่เหลือรดน้ำดูแลต่อไปให้ใบใหญ่ได้ขนาดก็ถอนขาย การถอนก็ง่ายๆ ถอนต้นที่ใหญ่ทั้งกอมากำรวมกันแล้วมัดด้วยหนังยางโยนลงร่องน้ำ พอถอนเสร็จก็เก็บต้นผักชีฝรั่งที่กำไว้แล้วอยู่ในน้ำ นำขึ้นมาทำความสะอาด กำให้เรียบร้อยรอพ่อค้าแม่ค้าเข้ามารับซื้อต่อไป
หลังจากถอนต้นครั้งแรกให้หว่านปุ๋ยอินทรีย์หรือปุ๋ยสูตร 25-7-7 บำรุงต้นเล็กที่ยังไม่ได้ขนาดเก็บให้เจริญเติบโต รดน้ำเช้า-เย็น ทิ้งห่างจากเก็บครั้งแรกประมาณ 25 วัน จึงเก็บครั้งที่สอง โดยการเลือกถอนต้นที่ใหญ่ได้ขนาดออกมากำแล้วทำความสะอาดส่งขาย จากนั้นก็หว่านปุ๋ยสูตรเสมอ 15-15-15 หรือ 16-16-16 ให้ทั่วแปลงรดน้ำให้ชุ่ม ทิ้งห่างไปอีก 25 วัน จึงเก็บครั้งที่สาม หลังถอนต้นต้องใส่ปุ๋ยทุกครั้ง ผักชีฝรั่งสามารถถอนได้ 4-5 ครั้ง จึงจะหมดแปลง
แมลงและศัตรูพืชและโรคพืชของผักชีฝรั่ง
แมลงหวี่ขาว
เกษตรกรที่ทำการปลูกผักชีฝรั่งนั้นจะกลัวแมลงหวี่ขาวที่สุด แมลงหวี่ขาวจะทำให้ใบผักชีฝรั่งหงิกเสีย เพราะแมลงหวี่ขาวเมื่อดูดน้ำเลี้ยงแล้วจะทิ้งเชื้อไวรัสไว้กับใบยอด เมื่อเกิดระบาดในแปลง หากควบคุมไม่ได้ถึงกับล่มทั้งแปลงเลยทีเดียว การกำจัดก็ต้องใช้สารเคมีฉีดให้ทั่วทั้งแปลงเมื่อพบว่ามีการระบาดมาก
หนอนกระทู้ หรือ หนอนหนังเหนียว
หนอนกระทู้ ยาเคมีเอามันไม่ค่อยอยู่ วิธีการกำจัดใช้วิธีขึ้นน้ำให้ท่วมร่องผัก ให้ระดับน้ำขึ้นไปอยู่ราวๆ ปลายยอดผักชีฝรั่ง หนอนมันจะหนีน้ำไปเกาะอยู่ที่ยอดใบ คราวนี้ก็ใช้สารอะไรก็ได้ที่ฉีดแล้วหนอนตาย
พอฉีดสารเสร็จให้รีบลดระดับน้ำออกให้เหลืออยู่แค่ปริ่มร่องตามเดิม อย่าช้ามิเช่นนั้นต้นผักชีฝรั่งจะตายได้ เมื่อใช้น้ำกำจัดหนอนหนังเหนียวหรือเจ้าควายพระอินทร์แล้ว ก็ควรฉีดไตรโครเดอร์ม่าหรือยากำจัดเชื้อราด้วย ป้องกันโรครากโคนเน่ามาเยือน
ไรแดง(แมลงมุมแดง)
ไรแดงหรือแมลงมุมแดง นั้นก็ชอบเข้าทำลายผักชีฝรั่งเช่นเดียวกัน ทำให้ใบแห้งกรอบแลหยิกเพราะไรแดงนั้นก็เป็นพาหะนำเชื้อไวรัสมาสู่ผักชีฝรั่งเช่นกัน ใช้สารกำมะถันก็ได้ผลที่ดีเพราะจะเป็นการป้องกันกำจัดไรแล้วยังทำให้ดินดีขึ้นอีกด้วย
โรคเน่า
เชื้อราเป็นศัตรูของผักชีฝรั่งอีกชนิดหนึ่งที่มักเกิดขึ้นได้เสมอ สาเหตุก็เพราะผักชีฝรั่งปลูกในโรงเรือนที่มีความชื้นสูง เกษตรกรควรใช้เชื้อไตรโครเดอร์ม่าดีกว่าได้ผลกว่า การใช้ไตรโครเดอร์ม่าให้ผสมน้ำราดทั่วทั้งแปลงก่อนหว่านเมล็ด แล้วหลังจากนั้นก็ฉีดทุกๆ 4 เดือน จะช่วยป้องกันได้ แต่ถ้าเป็นหน้าฝนมักเกิดโรครากโคนเน่าง่าย หากพบว่าเกิดโรครีบใช้สารกำจัดเชื้อรา หรือใช้ไตรโครเดอร์ม่าผสมน้ำฉีดบริเวณที่เกิดเชื้อราทันที อย่าปล่อยให้ลุกลามมากยิ่งขึ้น เดี๋ยวจะควบคุมไม่อยู่
![การปลูกผักชีฝรั่ง,หอมจีน,ผักชีใบเลื่อย,โรคเน่า,โรคราหลุม](http://www.jawkaikaset.com/images/column_1285936813/DSC03044.jpg)
โรคใบไหม้
สำหรับหน้าร้อนปัญหาที่พบก็คือ ผักชีฝรั่งเกิดใบไหม้หรือใบเหี่ยวเฉา เป็นที่รู้ๆ กันเลยว่า ถ้าหากอากาศร้อนจัดๆ ติดต่อกัน 3-5 วัน แล้วเกิดฝนตกลงมา ผักชีฝรั่งจะเจอปัญหาใบเหี่ยวเฉา บางต้นเกิดปลายใบไหม้และลามระบาดมาก ควรป้องกันโดยใช้สารคอปเปอร์ไฮดรอกไซด์ ต้นที่แตกใบใหม่ขึ้นมาจะไม่มีอาการ
![โรคใบไหม้ของผักชีฝรั่ง](http://www.jawkaikaset.com/images/column_1285936813/DSC02645.jpg)
หลังจากถอนต้นขายหมดแปลง ก็ให้ "ล่มน้ำใหม่" เอาหลังคาโรงเรือนออกให้หมด ตากดินใหม่พอจะเริ่มปลูกผักชีฝรั่งชุดใหม่ก็ตีดิน บำรุงดิน ใส่ปุ๋ยขี้วัว ขี้เป็ดคลุกให้ทั่ว หว่านปูนขาวแล้วก็หว่านเมล็ดพันธุ์ลงปลูกรุ่นต่อไป
การปลูกเพื่อเก็บเมล็ดพันธุ์
เรื่องเมล็ดพันธุ์นั้นส่วนใหญ่เกษตรกรจะเก็บเมล็ดพันธุ์ไว้ปลูกในรุ่นต่อๆ ไป โดยเลือกเก็บต้นที่ให้ดอกสมบูรณ์ๆ เลือกดูต้นที่ใหญ่ ถ้าติดดอกเก็บเอาดอกของต้นนั้นไว้ทำพันธุ์ต่อไป ใช้หลักวิธีคิด "แม่พันธุ์ดี ต้นลูกพันธุ์ก็ต้องดี"
ผักชีฝรั่งพันธุ์ที่ไม่ดี พอลงปลูกต้นโตไม่ทันไรเลยติดดอกเสียแล้ว บางครั้งต้นยังไม่ถึง 2 เดือน ติดดอกทั้งแปลง แสดงว่าได้เมล็ดพันธุ์มาปลูกไม่ดี เมล็ดพันธุ์ดีๆ ต้นต้องอยู่ได้นาน 3-4 เดือน จึงจะติดดอก
"เมล็ดพันธุ์ผักชีฝรั่งปัจจุบันราคาแพงมาก กิโลกรัมหนึ่งราว 3-4 พันบาท"
การปลูกผักชีฝรั่ง ต้นทุนมีค่าเมล็ดพันธุ์ ค่าปุ๋ย ค่ายา ปลูกใหม่ๆ ก็ต้องซื้อซาแรน ซื้อเสามาทำโรงเรือน แต่เป็นการลงทุนครั้งแรกเท่านั้น นอกนั้นจะเป็นค่าใช้จ่ายจิปาถะ พอต้นโตเก็บได้ก็ต้องจ้างคนมาเต๊าะใบ เขาจะเก็บเอาใบเสียออก เลือกเอาใบดีๆ ไว้ คิดค่าเก็บเอาใบเสียชั่งน้ำหนัก 1 กิโลกรัม ต่อค่าเต๊าะใบ 3 บาท ค่าแรงงานถอนต้นชั่วโมงละ 20 บาท
ผลตอบแทน
พื้นที่ปลูก 1 ไร่จะเก็บผลผลิตได้ประมาณ 3-5 ครั้งแล้วแต่การดูแลปริมาณผลผลิตรวมประมาณ 1.5-3 ตัน ส่วนราคาขายในตลาดนั้นเฉลี่ยประมาณ กิโลกรัมละ 35-50 บาท
รวบรวมข้อมูลโดย จ้าวไก่เกษตร
www.jawkaikaset.com